วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2553

e-mail คือ อะไร


Electronic mailหรือ Email อีเมล์ (บางทีเราจะเห็นเขียนเป็น email, eMail, E-Mail, e-Mail ก็มีนะครับมาจากคำเดียวกัน) เป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารของสังคมคนไอทีด้วยการส่งข้อความในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เหมือนกับการส่งจดหมายด้วยกระดาษ อีเมล์สามารถทำอะไรได้บ้าง
สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับผู้ใช้อีเมล์บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ทั่วโลก
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกลุ่มผู้ที่มีความสนใจร่วมกัน (discussion groups) ในระบบที่เรียกว่า Email lists หรือ Mailing lists
รับและส่งไฟล์เอกสาร รูปภาพและมัลติมีเดียในรูปของเอกสารแนบท้าย (Attachments)
ปัจจุบันเมื่อความเร็วในการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีความเร็วสูงขึ้น อีกไม่นานเราก็จะได้สัมผัสกับอีเมล์ที่รองรับทั้งเสียงและภาพแบบเวลาจริง (Real time คงไม่ต่างจากการพูดคุยผ่านโทรศัพท์เท่าไหร่)
อีเมล์ทำงานอย่างไร?

การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ก็ไม่ต่างจากการเขียนและส่งจดหมายธรรมดา เพียงแต่เปลี่ยนจากกระดาษและปากกามาเป็นการป้อน (พิมพ์) ข้อความลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่อเชื่อมกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแล้วส่งออกไปยังผู้รับเท่านั้นเอง

เครือข่ายอินเทอร์เน็ตจะทำหน้าที่แทนบุรุษไปรษณีย์ ผู้รับสามารถอ่านจดหมายผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ทันทีหรือจะสั่งพิมพ์เป็นเอกสารหลักฐานต่างๆ ก็ได้เช่นกัน
สิ่งที่คุณต้องมีในการรับส่งอีเมล์

ชื่อ-ที่อยู่อีเมล์ของคุณเอง (ผู้ส่ง) คุณสามารถขอใช้อีเมล์จากผู้ให้บริการฟรีทั่วไป หรือจากหน่วยงานของคุณเองได้ (ถ้ามีการจดโดเมนเนมและทำระบบตู้ไปรษณีย์ของหน่วยงาน) สำหรับผู้ให้บริการฟรีมีอยู่มากมายดูรายละเอียดที่นี่
ชื่อ-ที่อยู่อีเมล์ของผู้รับ ที่คุณต้องการติดต่อด้วย

ชื่อ-ที่อยู่อีเมล์จะประกอบด้วยส่วนสำคัญอยู่สองส่วน คือ ชื่อ (ของผู้รับและผู้ส่ง) คั่นด้วยเครื่องหมาย @ (อ่านว่า แอท-ไซ ย่อมาจากคำว่า address หรือที่อยู่) ตามด้วยชื่อผู้ให้บริการอีเมล์เช่น krumontree@easyhome.in.th (ชื่อครูมนตรี ผู้ให้บริการเป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลคือ easyhome.in.th), montreek@yahoo.com (ชื่อ montreek ผู้ให้บริการอีเมล์ฟรีของต่างประเทศคือ yahoo.com), webmaster@benchama.ac.th (ชื่อ webmaster ผู้ให้บริการเป็นอีเมล์ของหน่วยงานคือ benchama.ac.th )
ข้อสังเกต การสมัครขอใช้อีเมล์เพื่อให้สามารถใช้งานได้สะดวก จดจำได้ง่ายทั้งผู้ส่งและผู้รับควรจะ
ใช้ชื่อที่สั้นๆ จดจำและเขียนได้ง่ายเป็นอักษรตัวเล็กทั้งหมด
หากมีชื่อซ้ำกันอาจจะใส่ตัวเลขเข้าไปด้วยก็ได้ โดยเฉพาะชื่อของคนไทยบางทีการเขียนและสะกดทำได้ลำบากอาจจะใช้ชื่อย่อเข้าช่วยแก้ปัญหาได้
พยายามหลีกเลี่ยงการเขียนด้วยอักษรตัวใหญ่ตัวเล็กผสมกัน (จดจำยาก และถ้าพิมพ์ผิดโอกาสที่จดหมายจะส่งถึงเป็นศูนย์เลยทีเดียว) หรือ
หลีกเลี่ยงการเขียนด้วยตัวใหญ่ทั้งหมด (เพราะในความหมาย การพิมพ์ตัวอักษรตัวใหญ่ทั้งหมดจะเป็นการตะโกนเข้าใส่กัน)

Webboard คืออะไร


Webboard คืออะไร? สมัครสมาชิก D'Board เพื่อใช้บริการ Webboard ฟรีได้ที่นี่!!!
WebBoard คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในลักษณะเป็น กระดานสนทนา เป็นกระดานแจ้งข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยใช้รูปแบบการแสดงผล HTML ที่นิยมใช้ใน World Wide Web.. WebBoard อนุญาตให้ผู้เยี่ยมชมเวปไซต์ และผู้พัฒนาเวปไซต์ สามารถตั้งหัวข้อกระทู้ เพื่อประกาศข่าวสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ ซึ่งจะมีความแตกต่างจาก GuestBook ตรงที่ WebBoard จะสามารถแยก หัวข้อต่างๆ ออกเป็นกระทู้ๆ มีความโต้ตอบกันในการสนทนา ในหัวข้อเดียวกันมากกว่า กล่าวได้ว่า WebBoard คือพัฒนาการในรูปแบบใหม่ ของระบบการสนทนาใน BBS (Bulletin Board System) ที่เคยได้รับความนิยม ก่อนที่ระบบเครือข่าย Internet จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น WebBoard ที่พบเห็นกัน มีอยู่หลายรูปแบบ สำหรับโปรแกรม D'Board ที่เปิดให้ใช้บริการนี้ จะเป็น WebBoard ในลักษณะเดียว (รูปแบบคล้าย) กับที่ใช้ใน pantip.com

ข้อดีของการใช้ Webboard
เป็นช่องทางในการติดต่อ ประกาศข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้
ทำให้เกิดสังคม ในการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ระหว่างกลุ่มผู้เยี่ยมชม
ผู้พัฒนาโฮมเพจ สามารถใช้เป็นช่องทางในการ ประกาศข่าวใหม่ๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่นได้
ง่ายในการใช้งาน แม้จะเป็นผู้เริ่มต้น เมื่อเทียบกับการใช้ Mailing list หรือ News Group

ข้อดีของการใช้ D'Board
ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม CGI script
ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรม CGI script ใน Server เอง
สามารถนำไปใช้ได้ แม้ว่า Server ของคุณจะไม่อนุญาตให้ติดตั้ง CGI script ได้เอง
สามารถกำหนดรูปแบบ ของหน้าต่างๆ ของ WebBoard ของคุณได้เอง โดยผ่านระบบการจัดการที่เตรียมไว้ให้
สามารถใช้ HTML code แตกหน้าตา หน้าต่างๆของ WebBoard ของคุณได้ (รวมถึง Java และ Javascript ด้วยเช่นกัน)
สามารถลบ และแก้ไข ข้อความ ที่มีผู้มาลงไว้ใน WebBoard ได้
สามารถใช้งานได้ ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นด้วยเวลาไม่ถึง 3 นาที ในการกรอกแบบฟอร์ม สมัครเป็นสมาชิก คุณก็สามารถ นำ WebBoard ของคุณไปใช้งาน ในโฮมเพจหรือเวปไซต์ ของคุณได้ทันที
และอื่นๆ...

msn คือ อะไร


MSN Messenger คืออะไร? ทางนี้มีคำตอบครับ เจ้า MSN Messenger หรือที่ เราชอบเรียกกันว่า msn เนี่ย มันก็คือ โปรแกรมส่งข้อความข้าม ระบบเน็ทเวิร์ค แบบทันทีทันใด หรือภาษาฝรั่งเรียกว่า IM (Instant Messenger) ถ้าคุณเคยเล่นโปรแกรม ICQ IRC หรือ Pirch ก็เข้าข่ายเป็นโปรแกรมพวกเดียวกัน แหละครับ!

ทีนี้ทำไม เจ้า msn เนี่ยมันถึงฮิตติดชารจ์ขึ้นมา ก็เนื่องจากความง่ายของการใช้งาน เช่นคุณแค่มี E-mail ของ hotmail หรือ msn คุณก็สามารถเล่นเจ้า msn ได้ทันที แถมมันยังผนวกกับ email ของเราซะอีก โดยที่ เมื่อใดก็ตามที่มีเมล์ เข้ามาถึงเรา เจ้า msn มันก็จะแจ้ง ให้คุณทราบทันที นอกจากนั้น ความเร็วของการ รับและส่งข้อความระหว่างกัน ก็ทำได้อย่างรวดเร็ว หน้าตาโปรแกรมที่สวยงาม แถมเวอร์ชันใหม่ เรายังสามารถใส่รูปของเราได้อีกด้วย! แจ๋วจริงๆ แฮะ

จากรูปด้านบน คือหน้าตาของโปรแกรม msn ครับซึ่งจะแบ่งออกเป็นสองส่วน

1. หน้าต่างหลัก: ที่หน้าต่างนี้จะแสดงชื่อของเพื่อนๆ เราครับ ทั้งคนที่ online และ offline ซึ่งเวลาเราจะคุยกับเพื่อนคนไหน ก็สามารถดับเบิ้ลคลิ๊ก ที่ชื่อแล้ว หน้าต่างอีกอันจะแสดงขึ้นมา (รูปด้านขวามือ) เราก้อสามารถพิมพ์ข้อความส่งให้เพื่อนได้ทันที

2.หน้าต่างที่เราคุยกับเพื่อน: ที่หน้าต่างนี้เราสามารถพิมพ์ข้อความ คุยกับเพื่อนได้ทันที แล้วคุณยังสามารถให้ msn แสดงรูปภาพของเรา โดยที่ ทางฝั่งเพื่อนของเรา ก็จะเห็นรูปดังกล่าวเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถส่ง icon ต่างๆ เพื่อสื่ออารมณ์ เพิ่มความสนุกสนานในการ chat ได้อีกด้วย

อ้อ! ที่สำคัญก่อนใช้เนี่ย ผู้ใช้ต้องมี Email ของ Hotmail หรือ MSN ก่อนนะครับ หากใครไม่มี ต้องไปสมัครที่ www.hotmail.com ก่อนนะครับ ข้อมูลได้มาจาก www.thaimsn.net.com ครับ

blog คือ อะไร


Blog เป็นเว็บไซต์ที่สามารถเป็นได้หลากหลายอย่างแล้วแต่เจ้าของอยากให้เป็น ตั้งแต่ไดอารีส่วนตัว สถานที่สำหรับใช้ในการทำงานร่วมกัน (collaborative work space) หรือสภากาแฟสำหรับคุยเรื่องการเมือง แหล่งรวมข่าวสารความเป็นไป แหล่งรวมลิงค์ ไปจนถึงสมุดบันทึกความเป็นไปของโลกใบนี้ สรุปก็คือ "Blog" เป็นที่ซึงเราเอาไว้เขียนเรื่องราวที่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ โดยเรื่องที่เขียนเข้าไปใหม่ จะอยู่ส่วนบนสุด ซึ่งทำให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม สามารถอ่านเรื่องราวใหม่ๆได้ และยังสามารถที่จะเสนอแนะหรือติชมได้ ในกรณีที่เจ้าของ Blog นั้นๆ อนุญาติ

ที่จริงแล้ว Blog ได้ถือกำเนิดขึ้นมากว่า 5 ปีแล้ว แต่เพิ่งจะมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในช่วงปีที่ผ่านมานี้เอง และได้เปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับการใช้เว็บไซต์ ตลอดจนมีการประยุกต์ใช้ในหลากหลายรูปแบบ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้คนนับล้านๆทั่วโลกได้มีโอกาสสื่อสาร และติดต่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกันทั่วโลก นอกจากนี้ยังมี Group Blogs ที่เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของ blog ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารกันสำหรับกลุ่มคน อย่างเช่น ทีมงาน สมาชิกครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนต่างๆ โดยที่ Group Blogs นี้จะเป็นพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนข่าวสาร Links และไอเดียต่างๆ


--------------------------------------------------------------------------------



ผู้ที่ใช้งาน Blog หรือเจ้าของ Blog เราจะเรียกว่า "Blogger" สามารถเข้าไปอัพเดต blog ของตนเอง ณ ที่ใดก็ได้ที่สามารถเข้าถึง Intenet ได้ โดยไม่แน่ว่าในอนาคต ThaiBlogOnline อาจจะให้เจ้าของ blog สามารถอัพเดต blog ของตนเองผ่านทาง SMS มือถือก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังสามารถโพสรูปภาพ เสียง และวีดีโอไปยัง blog ได้อีกด้วย


โดยเฉลี่ยแล้วจำนวนผู้ใช้ blog จะเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวทุกๆ 5 เดือน และจะมี blog ใหม่ถือกำเนิดขึ้นทุก 5.8 วินาที หรือประมาณ 15,000 blogs ต่อวัน ซึ่งทำให้เกิด Weblogs แล้วจำนวนกว่า 10 ล้าน blogs ทั่วโลก แต่ถว่ามี blog ที่ตายแล้ว หรือ blog ที่ไม่มีการอัพเดตกว่า 80% การใช้งาน Blog สามารถสร้างรายได้ให้กับคุณได้เหมือนกัน จะมีใครคาดคิดว่าวันนึงคุณอาจจะทำงานในชุดนอนที่บ้าน โดยมีรายได้จากโฆษณาออนไลน์และเว็บแบนเนอร์บน Weblogs ของตัวเอง ซึ่งก็เคยมีตัวอย่างมาแล้วในประเทศอเมริกา ที่เจ้าของ blog สามารถสร้างรายได้จาก banner ถึง 5,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณเกือบ 2 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งมากพอจะช่วยให้เขาจ้างผู้ช่วยในการหาข้อมูลมา update เนื้อหาใน blog ได้สบายๆ


ปัจจุบันนี้ได้มีผู้ให้คำนิยามของคำว่า Blog (weB log) ไว้ดังนี้ "A blog is a personal diary. A daily pulpit. A collaborative space. A political soapbox. A breaking-news outlet. A collection of links. Your own private thoughts. Memos to the world.


Your blog is whatever you want it to be. There are millions of them, in all shapes and sizes, and there are no real rules.


In simple terms, a blog is a web site, where you write stuff on an ongoing basis. New stuff shows up at the top, so your visitors can read what's new. Then they comment on it or link to it or email you. Or not.


Since Blogger was launched, almost five years ago, blogs have reshaped the web, impacted politics, shaken up journalism, and enabled millions of people to have a voice and connect with others. And we're pretty sure the whole deal is just getting started"